Friday, 16 September 2011

ปริญญานิพนธ์ ป.เอก

ปริญญานิพนธ์
เรื่อง
การพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
นายบุญเลิศ  อุทยานิก
บัณฑิตวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

1. มีหลักการและขั้นตอนในการพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างไร

          สื่อเละเทคโนโลยีที่ใช้ในการศึกษาและวิจัยในครั้งนี้คือ ประกอบไปด้วย
 1.แบบสอบถามสถานะสุขภาพของนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย  ที่มีค่าดัชนีสอดคล้อง IOC เท่ากับ 1.00 ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นแอลฟ่าของ Cronbach  เท่ากับ 0.75
2. แบบทดสอบสมรรภาพทางกายของ  Cooper Institute for Aerobic Research  และเกณฑ์สมรรภาพทางกายสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลายของกรุงเทพมหานครที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
3. โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนา  ) ความอดทนของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด  ) ความแข็งแรงอดทนของกล้ามเนื้อท้อง  )  ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังและต้นขาที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น  มีค่าดัชนีความสอดคล้อง  IOC อยู่ระหว่าง  0.67 -  1.00  กลุ่มตัวอย่าง 90 คน แบ่งออกเป็น 3  กลุ่ม  กลุ่มละ 30 คน  ( ชาย  15  หญิง  15 )  เข้าร่วมฝึกโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทนของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด  ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้องและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังและต้นขา  กำหนดให้กลุ่มตัวอย่างทดสอบสมรรภาพทางกานก่อนและหลังการฝึกโปรแกรม 8 สัปดาห์  วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มก่อนและหลังการฝึก
 2. มีหลักในการประเมินสู่เทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างไร
         จากการวินิจฉัยและการประเมินตามสภาพจริงสามรถนำไปจัดกิจกกรมส่งเสริมสรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนัดเรียนได้จากการวินิจฉัยและการประเมินตามสภาพจริง  และนำข้อมูลไปสร้างโปรแกรมการพัฒนาสมรรภาพทางที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่สร้างขึ้นว่า รูปแบบการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพผู้วิจัยจะเรียกว่ารูปแบบว่า  HPFD  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วย  1) การวินิจฉัยและการประเมินสถานะสุขภาพและปัญหาสมรรภาพทางกาย  2.) การสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายตามข้อกำหนดการออกกำลังกายที่เป็นไปตามตัวบ่งชี้  จากการวินิจฉัยและประเมินปัญหาสมรรภาพทางกาย   การปฏิบัติตามรูปแบบ HPFD  มุ่งเน้นในการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีหรือแนวทางปฏิบัติตนเองเพื่อทำให้มีสมรรภาพทางกายที่ดี  มีสุขภาพดี  นอกจากนี้  ยังทำให้ครูพละศึกษาสามรถนำรูปแบบสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพไปวินิจฉัยเพื่อประเมินคุณภาพนักเรียน  อีกทั้งยังเป็นการพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรภาพทางกายโดยใช้วิธีการวินิจฉัยสมรรภาพทางกายที่เป็นนวัฒกรรมใหม่ทางพลศึกษาทุกระดับและทุกช่วงชั้นการเรียนรู้นักพลศึกษาสามารถนำไปใช้และเข้าถึงความหมายการพลศึกษาเชิงวิชาการและประโยชน์ที่สำคัญยิ่งของพลศึกษาที่มีต่อการสร้างเสริมสุขภาพต่อไป
3. ผลการนำสื่อและเทคโนโลยีการศึกษามาใช้เป็นอย่างไร
1.) ครูผู้สอนและนักพลศึกษาได้รูปแบบการวินิจฉัยและการประเมินสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย  ประกอบด้วย  คู่มือการวินิจฉัยและการประเมินปัญหาสุขภาพ  คู่มือการประเมินสถานะสุขภาพและคุ่มือการวินิจฉัยเพื่อประเมินปัยหาสมรรภาพทางกาย
2.) ครูผู้สอนและนักพลศึกษาได้โปรแกรมการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ  ประกอบด้วย  โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทนของหัวใจและระบบการไหลเวียนเลือด  โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความแข้งแรงอดทดของกล้ามเนื้อท้อง โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอ่อนตัวหรือความยืดหยุ่นของหลังส่วนล่าง  ที่จะทำไปใช้พัฒนาสมรรภาพทางกายเพื่อสุขภาพทางกาย
3.) ได้คู่มือการออกกำลังกายตามข้อบ่งชี้จากการประเมินเพื่อพัฒนาสุขภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
4.) ทำให้เกิดนวัฒกรรมใหม่ของการประเมินสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวกับสุขภาพตามสภาพจริงในรูปแบบการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ  เพื่อพัฒนาสมรรภาพทางกายเกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
5.) นักเรียนได้โปรแกรมกายออกกำลังกายที่เป็นแนวทางสำหรับนักเรียนได้พัฒนาสมรรภาพทางกายของตนเองให้ดีขึ้น จบ


No comments:

Post a Comment