ปริญญานิพนธ์
เรื่อง
การพัฒนาสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
นายบุญเลิศ อุทยานิก
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
1. มีหลักการและขั้นตอนในการพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างไร
สื่อเละเทคโนโลยีที่ใช้ในการศึกษาและวิจัยในครั้งนี้คือ ประกอบไปด้วย
1.แบบสอบถามสถานะสุขภาพของนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย ที่มีค่าดัชนีสอดคล้อง IOC เท่ากับ 1.00 ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นแอลฟ่าของ Cronbach เท่ากับ 0.75
2. แบบทดสอบสมรรภาพทางกายของ Cooper Institute for Aerobic Research และเกณฑ์สมรรภาพทางกายสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลายของกรุงเทพมหานครที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
3. โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนา ก) ความอดทนของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด ข) ความแข็งแรงอดทนของกล้ามเนื้อท้อง ค) ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังและต้นขาที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น มีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC อยู่ระหว่าง 0.67 - 1.00 กลุ่มตัวอย่าง 90 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน ( ชาย 15 หญิง 15 ) เข้าร่วมฝึกโปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทนของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้องและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังและต้นขา กำหนดให้กลุ่มตัวอย่างทดสอบสมรรภาพทางกานก่อนและหลังการฝึกโปรแกรม 8 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มก่อนและหลังการฝึก
2. มีหลักในการประเมินสู่เทคโนโลยีทางการศึกษาอย่างไร
จากการวินิจฉัยและการประเมินตามสภาพจริงสามรถนำไปจัดกิจกกรมส่งเสริมสรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพนัดเรียนได้จากการวินิจฉัยและการประเมินตามสภาพจริง และนำข้อมูลไปสร้างโปรแกรมการพัฒนาสมรรภาพทางที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่สร้างขึ้นว่า รูปแบบการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพผู้วิจัยจะเรียกว่ารูปแบบว่า HPFD ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วย 1) การวินิจฉัยและการประเมินสถานะสุขภาพและปัญหาสมรรภาพทางกาย 2.) การสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายตามข้อกำหนดการออกกำลังกายที่เป็นไปตามตัวบ่งชี้ จากการวินิจฉัยและประเมินปัญหาสมรรภาพทางกาย การปฏิบัติตามรูปแบบ HPFD มุ่งเน้นในการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีหรือแนวทางปฏิบัติตนเองเพื่อทำให้มีสมรรภาพทางกายที่ดี มีสุขภาพดี นอกจากนี้ ยังทำให้ครูพละศึกษาสามรถนำรูปแบบสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพไปวินิจฉัยเพื่อประเมินคุณภาพนักเรียน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนารูปแบบการประเมินสมรรภาพทางกายโดยใช้วิธีการวินิจฉัยสมรรภาพทางกายที่เป็นนวัฒกรรมใหม่ทางพลศึกษาทุกระดับและทุกช่วงชั้นการเรียนรู้นักพลศึกษาสามารถนำไปใช้และเข้าถึงความหมายการพลศึกษาเชิงวิชาการและประโยชน์ที่สำคัญยิ่งของพลศึกษาที่มีต่อการสร้างเสริมสุขภาพต่อไป
3. ผลการนำสื่อและเทคโนโลยีการศึกษามาใช้เป็นอย่างไร
1.) ครูผู้สอนและนักพลศึกษาได้รูปแบบการวินิจฉัยและการประเมินสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย ประกอบด้วย คู่มือการวินิจฉัยและการประเมินปัญหาสุขภาพ คู่มือการประเมินสถานะสุขภาพและคุ่มือการวินิจฉัยเพื่อประเมินปัยหาสมรรภาพทางกาย
2.) ครูผู้สอนและนักพลศึกษาได้โปรแกรมการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ประกอบด้วย โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทนของหัวใจและระบบการไหลเวียนเลือด โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความแข้งแรงอดทดของกล้ามเนื้อท้อง โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอ่อนตัวหรือความยืดหยุ่นของหลังส่วนล่าง ที่จะทำไปใช้พัฒนาสมรรภาพทางกายเพื่อสุขภาพทางกาย
3.) ได้คู่มือการออกกำลังกายตามข้อบ่งชี้จากการประเมินเพื่อพัฒนาสุขภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
4.) ทำให้เกิดนวัฒกรรมใหม่ของการประเมินสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวกับสุขภาพตามสภาพจริงในรูปแบบการพัฒนาสมรรภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เพื่อพัฒนาสมรรภาพทางกายเกี่ยวข้องกับสุขภาพสำหรับนักเรียนวัยรุ่นตอนปลาย
5.) นักเรียนได้โปรแกรมกายออกกำลังกายที่เป็นแนวทางสำหรับนักเรียนได้พัฒนาสมรรภาพทางกายของตนเองให้ดีขึ้น จบ